ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ชวนผู้ประกอบการไทยก้าวสู่การเป็น Impact Maker ปั้นโรงงาน ผลิตน้ำตาลอัจฉริยะที่ยั่งยืน ใน “ชูการ์เร็ก ไทยแลนด์ 2025” ครั้งใหญ่แห่งเอเชีย กล่องจดหมาย

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ชวนผู้ประกอบการไทยก้าวสู่การเป็น Impact Maker ปั้นโรงงาน ผลิตน้ำตาลอัจฉริยะที่ยั่งยืน ใน “ชูการ์เร็ก ไทยแลนด์ 2025” ครั้งใหญ่แห่งเอเชีย



ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในการจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติ ชวนทุกคนร่วมเป็นผู้สร้างผลกระทบเชิงบวกในภาคอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพในงานมหกรรมแสดงสินค้าด้านการเกษตร อ้อย น้ำตาลและเอทานอลใหญ่สุดในภูมิภาคเอเชีย “ชูการ์เร็ก ไทยแลนด์ 2025” ระหว่างวันที่ 11-12 กันยายน 2568 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ (KICE) ขอนแก่น

ชูการ์เร็ก ไทยแลนด์ 2025 (Sugarex Thailand 2025) จัดขึ้นเป็นปีที่ 10 โดยรวบรวมบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศที่มีเทคโนโลยีสำหรับการผลิตน้ำตาล เอทานอลรวมถึง เครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับการเกษตรครบวงจร รวมถึงการจัดประชุมนานาชาติอุตสาหกรรมน้ำตาล กิจกรรมจับคู่ธุรกิจสำหรับผู้ผลิตและนักลงทุน นอกจากนี้ยังมีเวทีสัมมนาให้ความรู้ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลประยุกต์ใช้กับธุรกิจเพื่อสร้างผลกำไรและการเติบโตที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้ร่วมสนับสนุนและแลกเปลี่ยนมุมมองในหัวข้อ “Smart Sugar Factories : EcoStruxure for Sugar ช่วยทรานส์ฟอร์มเมชั่นข้อมูลเพื่อสร้างประสิทธิภาพสูงสุด กำไรและความยั่งยืนได้อย่างไร โดย เยอร์เกน เนปเป หัวหน้ากลุ่มธุรกิจย่อยด้านน้ำตาลและเชื้อเพลิงชีวภาพฝ่ายธุรกิจอุตสาหกรรม ชไนเดอร์ อิเล็คทริค และหัวข้อ “Smart Digital Solution for Maximize Profit” โดย สุภานิกา ศรีไชยวงค์ ฝ่ายขาย โซลูชั่นดิจิทัล ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เพื่อนำเสนอการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการเปลี่ยนผ่านจากระบบการดำเนินงานแบบเดิมสู่ระบบออโตเมชั่น เพื่อเป้าหมายสำคัญในการสร้าง Impact Maker ให้เกิดขึ้นวงการอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมจัดกิจกรรมบูธแสดงสินค้าและบริการนวัตกรรมโซลูชั่น ภายใต้ธีม Life is On Make transformative IMPACT ด้วยแพลตฟอร์ตประสิทธิภาพ EcoStruxure Automation Expert ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถสร้างผลกระทบที่เปลี่ยนแปลงกระบวนการทางอุตสาหกรรมได้อย่างแท้จริง โดยมี 3 จุดแข็งหลัก ได้แก่ 1.เพิ่มความยืดหยุ่นของระบบ ด้วยคุณสมบัติซอฟต์แวร์ที่สามารถทำงานได้กับฮาร์ดแวร์ที่หลากหลาย (Hardware-Agnostic) ทำให้เลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับความต้องการได้โดยไม่ถูกจำกัด

2.เพิ่มประสิทธิภาพในการออกแบบ ด้วยสภาพแวดล้อมการพัฒนาแบบรวมศูนย์ (Unified Development Environment) ช่วยให้การออกแบบระบบง่ายขึ้นและลดความซับซ้อน และ3.เพิ่มประสิทธิภาพของโรงงาน ช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมของโรงงานดีขึ้น ลดระยะเวลาของการเกิด Downtime และทำให้การผลิตดำเนินไปอย่างราบรื่น

อีกทั้งชไนเดอร์ อิเล็คทริค กำลังเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม หรือ Industrial Tech โดยยึดมั่นพันธกิจการเป็นพาร์ทเนอร์ชิพที่เชื่อถือได้ในเรื่องความยั่งยืนและส่งมอบประสิทธิภาพสูงสุดให้กับลูกค้า การได้ร่วมสนับสนุนงานชูการ์เร็ก ไทยแลนด์ 2025 ในครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจที่ต้องการขับเคลื่อนวงการอุตสาหกรรมการเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มอ้อย น้ำตาลและเอทานอล ได้นำจุดแข็งของนวัตกรรมโซลูชั่นที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริคพัฒนาขึ้น ประยุกต์ใช้กับระบบปฏิบัติการแบบเดิมเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ระบบออโตเมชั่นเต็มรูปแบบเพื่อความยั่งยืนด้านการใช้พลังงานและผลกำไรที่เพิ่มขึ้น

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้ารับฟังสัมมนาและชมบูธแสดงสินค้าและบริการนวัตกรรมโซลูชั่นของชไนเดอร์ อิเล็คทริค (บูธเลขที่ (139-140) ในงานชูการ์เร็ก ไทยแลนด์ 2025 ระหว่างวันที่ 11-12 กันยายน 2568 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ (KICE) จังหวัดขอนแก่น

ความคิดเห็น