แอลจี ขานรับเทรนด์อากาศสะอาดต่อเนื่อง เปิดตัวเครื่องฟอกอากาศสองรุ่นใหม่จาก Aero Series ขนาดกะทัดรัด มอบอากาศสะอาดจัดเต็มแบบ 360 องศา
แอลจีขานรับเทรนด์อากาศสะอาดต่อเนื่อง
เปิดตัวเครื่องฟอกอากาศสองรุ่นใหม่จาก Aero Series ขนาดกะทัดรัด มอบอากาศสะอาดจัดเต็มแบบ 360 องศา
กรุงเทพฯ, 29 พฤษภาคม 2568 – บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมระดับโลกด้านเทคโนโลยีและเครื่องใช้ไฟฟ้า ขานรับเทรนด์ผู้บริโภคที่ใส่ใจดูแลสุขภาพซึ่งรวมถึงการมองหาอากาศสะอาดในชีวิตประจำวัน ตอบสนองความต้องการเครื่องฟอกอากาศในตลาดที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวเครื่องฟอกอากาศสองรุ่นใหม่ LG PuriCare™ AeroBooster และ LG PuriCare™ AeroHit มีจุดเด่นที่ดีไซน์ขนาดกะทัดรัด เรียบง่าย เหมาะกับการจัดวางในพื้นที่ใช้สอยจำกัด แต่อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน
เครื่องฟอกอากาศ LG PuriCare™ AeroBooster โดดเด่นด้วยการออกแบบรูปร่างสูงเพรียวมีระดับ ใช้พื้นที่น้อยลงกว่าเดิมถึง
40%[1] จึงสามารถจัดวางเข้ากับทุกพื้นที่ได้อย่างมีสไตล์ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด
ด้วยระบบกรองอากาศหลายชั้น (Multi-filtration system) ที่มาพร้อมแผ่นกรอง
HEPA Filter สามารถช่วยดักจับอนุภาคขนาดเล็กถึงระดับ 0.01
ไมครอน ทั้งฝุ่น แบคทีเรีย และเชื้อรา พร้อมด้วย Ionizer ที่ปล่อยประจุในอากาศ ทำให้สารอันตรายให้เป็นกลาง
ให้สภาพแวดล้อมดีต่อสุขภาพ เสริมด้วยแผ่นกรองโฟโตแคทาไลติก (Photocatalytic
Filter) ที่ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ของสัตว์เลี้ยงได้อีกด้วย และความสามารถในการฟอกอากาศได้รอบทิศทางแบบ
360 องศา และเทคโนโลยี Clean Booster ที่กระจายอากาศสะอาดได้ไกลถึง
5.5 เมตร ไม่ว่าจะตั้งบริเวณไหนของห้องก็สามารถดูแลคุณและสัตว์เลี้ยง
ได้อย่างครอบคลุม นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี UVnano ที่กำจัดแบคทีเรียอันตรายบนพื้นผิวใบพัดได้
99.998%[2] และยังกำจัดแบคทีเรียบนแผ่นกรอง ทำให้เครื่องฟอกอากาศสะอาดจากภายใน อีกทั้งยังมีการแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนแผ่นกรอง
คุณจึงมั่นใจได้ว่าอากาศสะอาด บริสุทธิ์หมุนเวียนตลอดเวลา
LG PuriCare™ AeroBooster
LG
PuriCare™
AeroBooster ยังตอบโจทย์ด้านการประหยัดพลังงานด้วยฟังก์ชั่น
AI+ ที่ปรับระดับพัดลมโดยอัตโนมัติในโหมดประหยัดพลังงาน
สามารถลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 49%[3]
เมื่อเทียบกับการใช้งานโหมดปกติ มาพร้อมหน้าจอที่เรียบหรูเข้าใจง่ายและยังสามารถแสดงคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ผ่านสีไฟที่แสดงบนหน้าจอ
ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ใช้งานยังสามารถควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน LG
ThinQ ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิด ตั้งค่าโหมดการทำงาน
รวมถึงฟังก์ชั่นปรับแสงสีต่างๆ ให้เข้ากับบรรยากาศได้ตามความต้องการอีกด้วย
LG PuriCare™ AeroHit
แอลจียังนำเสนอ LG PuriCare™ AeroHit เครื่องฟอกอากาศขนาดกะทัดรัด ใช้พื้นที่น้อยลงกว่าเดิมถึง 42%[4] เหมาะสำหรับการจัดวางได้ในทุกพื้นที่การใช้งาน แต่ยังคงประสิทธิภาพในการฟอกอากาศรอบทิศทาง 360 องศา ด้วยระบบกรองอากาศหลายชั้นที่มีแผ่นกรอง HEPA Filter สามารถกรองฝุ่น อนุภาคขนาดเล็กที่มองไม่เห็น รวมถึงแบคทีเรีย เชื้อโรค และเชื้อรา นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยการทำงานที่ทรงพลังแต่ไม่ส่งเสียงดัง โดยเมื่อเปิดใช้งานมีระดับเสียงต่ำสุดอยู่ที่ 25 เดซิเบลเท่านั้น จึงไม่รบกวนการทำงานหรือการพักผ่อน มาพร้อมการแสดงคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ผ่านสีไฟที่แสดงบนหน้าจอ และการแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนแผ่นกรอง อีกทั้งยังรองรับการควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน ThinQ สามารถเช็กคุณภาพอากาศและตั้งค่าการทำงานจากสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวกสบาย
เครื่องฟอกอากาศ LG PuriCare™ AeroBooster พร้อมวางจำหน่ายแล้วในราคา 21,900 บาท และเครื่องฟอกอากาศ LG PuriCare™ AeroHit ในราคา
6,900 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของแอลจีทั่วประเทศ
และศูนย์บริการข้อมูลแอลจี 02-057-5757 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.lg.com/th
และติดตามกิจกรรมต่างๆ ของแอลจีได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ LG
Global และอินสตาแกรม lg_thailand
[1] เมื่อเทียบกับเครื่องฟอกอากาศ
LG PuriCare 360 single model
[2]
ทดสอบโดย
KOTITI ทดสอบที่อุณหภูมิ 20±5℃ ความชื้น 50±10% โหมดลมต่ำ UVC LED (เปิด 6 ชั่วโมง ปิด 1
ชั่วโมง) ด้วยการยืนยันประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย 3 ชนิดด้วย UV LED
(ลมต่ำ, 1 ชั่วโมง) บนพัดลมทั้งบนและล่าง
การฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพทั้งจากพัดลมบนและล่างใน 1 ชั่วโมง
สายพันธุ์ที่ทดสอบ:
Staphylococcus
aureus ATCC 6538p Klebsiella pneumoniae ATCC 4352 Staphylococcus epidermidis ATCC 12228 ให้ผลลัพธ์ให้การกำจัด
Staphylococcus aureus: ด้านบน 99.999%, ด้านล่าง 99.999% Klebsiella pneumoniae: ด้านบน
99.999%, ด้านล่าง 99.999% Staphylococcus
epidermidis: ด้านบน 99.999%, ด้านล่าง
99.998%
[3]
ทดสอบโดย
TÜV
Rheinland ที่อุณหภูมิ 23±5℃, ความชื้น
55±15% ด้วยการใช้พลังงานรวมของแต่ละโหมดการทำงาน (8 ชั่วโมงหลังจาก 15 นาทีจากการเริ่มต้นของแต่ละโหมดการทำงาน)
ให้ผลลัพธ์ของเครื่องฟอกอากาศที่ทดสอบมีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานมากกว่าโหมด
Smart+ 49.6% (การใช้พลังงานรวม (Wh) โหมด AI+ 28.260Wh และโหมด Smart+ 56.085Wh)
[4]
เมื่อเทียบกับเครื่องฟอกอากาศ
LG
PuriCare 360 Hit รุ่นเดิม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น