หัวเว่ยจับมือกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ตั้งศูนย์ฝึกอบรมการติดตั้งระบบโซลาเซลล์แห่งใหม่ ผลักดันเทคโนโลยีสีเขียว พร้อมเสริมทักษะบุคลากรดิจิทัลไทย
หัวเว่ยจับมือกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ตั้งศูนย์ฝึกอบรมการติดตั้งระบบโซลาเซลล์แห่งใหม่
ผลักดันเทคโนโลยีสีเขียว พร้อมเสริมทักษะบุคลากรดิจิทัลไทย
ศูนย์ฝึกอบรมและรับรองมาตรฐานการติดตั้งระบบโซลาเซลล์แห่งใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างหัวเว่ยและกพร.
ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยจัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรในด้านการติดตั้งระบบพลังงานดิจิทัลในประเทศไทย
และสร้างอีโคซิสเต็มของบุคลากรที่มีความสามารถ
รวมทั้งส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมโซลาเซลล์และโครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีสีเขียวในประเทศ
ศูนย์ดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่การฝึกอบรมทักษะการติดตั้งหลังคาโซลาเซลล์ ด้วยการอบรมให้ความรู้และทักษะเรื่องเทคโนโลยีระบบพลังงานดิจิทัลใหม่ล่าสุดที่จะช่วยส่งเสริมอนาคตที่ยั่งยืนของประเทศไทย
นายเดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร
บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด ได้กล่าวในงานเปิดตัวครั้งนี้ว่า:
“หัวเว่ยเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย โดยไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงความมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางด้านบุคลากรดิจิทัลในอนาคต
แต่ยังมีศักยภาพในการก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านระบบพลังงานดิจิทัลอย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาคอีกด้วย
โดยปัจจุบัน หัวเว่ยได้ริเริ่มโครงการโซลาเซลล์สำหรับที่อยู่อาศัยหลากหลายโครงการในประเทศไทย
และได้ร่วมมือกับพันธมิตรในภาคเอกชน หน่วยงานรัฐบาล และสถาบันการเงินหลากหลายองค์กรเพื่อส่งเสริมการใช้โซลูชันพลังงานสะอาดให้แพร่หลายในที่อยู่อาศัยและภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย
การเปิดตัวศูนย์อบรมในวันนี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มมากขึ้น
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีพลังงานสะอาด
รวมไปถึงความมุ่งมั่นของหัวเว่ยในการช่วยให้ประเทศไทยไปถึงเป้าหมายด้านพลังงานหมุนเวียน”
นางจิรวรรณ สุตสุนทร
ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน กล่าวในพิธีว่า:
“การพัฒนาศักยภาพแรงงานให้มีผลิตภาพสูง รองรับความต้องการของตลาดแรงงานสมัยใหม่
ถือเป็นภารกิจของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในการตอบสนองยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศ โดยปัจจุบันประเทศไทยเริ่มหันมาใช้พลังงานทดแทนซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ในการผลิตไฟฟ้า
แต่ยังขาดแคลนแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการติดตั้งระบบโซลาเซลล์จำนวนมาก
ดังนั้นทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันเตรียมความพร้อมในการพัฒนาแรงงานให้มีทักษะฝีมือเพียงพอต่อความต้องการของตลาด
ดิฉันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงานด้านดิจิทัลรวมทั้งการเปิดศูนย์ฝึกอบรมเทคโนโลยีด้านการติดตั้งอุปกรณ์ระบบพลังงานแสงอาทิตย์
ระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงานกับ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด
ในครั้งนี้ ทางกระทรวงแรงงานต้องขอขอบคุณ หัวเว่ย ประเทศไทย ที่สนับสนุนเครื่องมืในการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมเทคโนโลยีด้านการติดตั้งอุปกรณ์ระบบพลังงานแสงอาทิตย์
รวมถึงองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่นำมาพัฒนากาลังแรงงาน ให้มีความรู้ และความสามารถมากยิ่งขึ้น”
ความร่วมมือระหว่างหัวเว่ยกับกพร.
เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ประเทศไทยที่จะสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน
(Carbon Neutrality) ภายในปี
2593 เป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน ณ การประชุม COP26 โดยตั้งเป้าที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2608 เพื่อเป็นการสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว หัวเว่ยได้ตั้งส่วนธุรกิจพลังงานดิจิทัลขึ้นในปี
2565 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการใช้งานระบบโซลาเซลล์ในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนโครงการในประเทศจำนวน 30,000 โครงการ
และสร้างทักษะให้บุคลากรไทยจำนวน 10,000 คนในระยะเวลาสามปีอย่างต่อเนื่อง
โดยหัวเว่ยประสบความสำเร็จในการส่งมอบโซลูชันพลังงาน FusionSolar ร่วมกับธนาคารในประเทศเพื่อเปิดตัวสินเชื่อเทคโนโลยีสีเขียว และจับมือกับห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ในการติดตั้งโซลาฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ
บนหลังคาห้างสรรพสินค้า ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 4,000 ตัน นับตั้งแต่การติดตั้งในปี 2564
นอกจากด้านการส่งเสริมทักษะและการแลกเปลี่ยนความรู้ ศูนย์ฝึกอบรมดังกล่าวยังจะส่งมอบประกาศนียบัตรร่วมให้กับบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านระบบพลังงานดิจิทัล
ยกระดับประสิทธิภาพและความรวดเร็วในโครงการติดตั้งระบบโซลาเซลล์ทั่วประเทศ
การร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การอบรมและการรับรองมาตรฐานร่วมกันให้แก่บุคลากรด้านพลังงานดิจิทัล
ซึ่งไม่เพียงแต่มีเป้าหมายเพื่อผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมโซลาเซลล์ แต่ยังทำให้เกิดสาธารณประโยชน์อีกมากมาย
ซึ่งรวมถึงโอกาสในการสร้างงาน การยกระดับคุณภาพในการติดตั้งระบบโซลาเซลล์ รวมถึงปูทางให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหรกรรมและภาครัฐต่อไป
“นอกจากการเปิดตัวศูนย์ฯ เรายังมีความยินดีที่ได้สานต่อความร่วมมือด้วยบันทึกข้อตกลง
(MoU) กับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่จะจะมุ่งเน้นเรื่องการอบรมด้านเทคโนโลยี
4G และ 5G การติดตั้งระบบโซลาเซลล์
รวมถึงเรื่องความปลอดภัยบนคลาวด์ให้บุคลากรในประเทศ ซึ่งภายใต้ความร่วมมือนี้
เราจะผลักดันประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านความยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน
โดยสร้างความเติบโตให้แก่เทคโนโลยีสีเขียว และพัฒนาความสามารถให้กับบุคลากรในปัจจุบันและอนาคต
เพื่อช่วยเป็นแรงผลักดันให้อนาคตของประเทศไทยเป็นไปในแนวทางเดียวกับพันธกิจของเรา
ที่มุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปสู่ทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร
เพื่อสร้างประเทศไทยที่เชื่อมต่อ อัจฉริยะ และคาร์บอนต่ำ”
นายเดวิดกล่าวปิดท้าย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น