อาร์ทีบีฯ ผนึก Studio7 เปิดตัวหูฟัง True Wireless สองสุดยอดเรือธงจากแบรนด์ “จาบร้า” “Jabra Elite 10” และ “Jabra Elite 8 Active” รุกตลาดส่งท้ายปี 2566
อาร์ทีบีฯ ผนึก Studio7 เปิดตัวหูฟัง True Wireless สองสุดยอดเรือธงจากแบรนด์ “จาบร้า”“Jabra Elite 10” และ “Jabra Elite 8 Active” รุกตลาดส่งท้ายปี 2566โดดเด่นด้วยระบบเสียง Dolby Atmos ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Dolby Head Trackingตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การทำงานและการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่
บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด ประกาศแผนรุกตลาดส่งท้ายปี 66 เดินเครื่องจับมือกับ สตูดิโอเซเว่น ภายใต้ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด(มหาชน) ผู้ประกอบการค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของไทย ส่งหูฟังทรูไวร์เลส(True Wireless) ระดับพรีเมียม ภายใต้แบรนด์ “Jabra” (จาบร้า) 2 รุ่น ได้แก่ “Jabra Elite 10” และ “Jabra Elite 8 Active” เข้ามาเสริมทัพตลาด สำหรับรุ่น Elite 10 โดดเด่นด้วยระบบเสียง Dolby Atmos ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Dolby Head Tracking รวมถึงประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนภายนอกที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยหูฟังทั้งสองรุ่นนี้นับเป็นหูฟังระดับไฮเอนด์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับประสบการณ์การฟังที่ดีที่สุด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานและการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ
สำหรับการทำตลาดหูฟังในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา
ดร.บรรพต กล่าวว่า “อาร์ทีบีฯ ได้วางกลยุทธ์เข้มข้นด้วยการนำเสนอหูฟังและลำโพงหลากหลายรุ่นเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้แก่กลุ่มธุรกิจหูฟัง พร้อมทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มทั้งออฟไลน์และออนไลน์
เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงลูกค้าได้ในวงกว้าง”
ทางด้าน Mr.Ashim Mathur รองประธานฝ่ายการตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจาก
Dolby Laboratories กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ทำงานร่วมกับจาบร้า
เพื่อเปิดตัว Jabra Elite 8 Active ที่มาพร้อมระบบเสียง Dolby
Audio และ Jabra Elite 10 ที่มาพร้อมระบบติดตามการเคลื่อนไหวของศรีษะ Dolby Head Tracking เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่น่าทึ่งให้กับลูกค้าในประเทศไทย”
นางสาววิมลมาลย์ วัฒนสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า จาบร้าเป็นแบรนด์ที่ไม่หยุดนิ่งและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบรับกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอยู่เสมอ จนเป็นที่มาของการพัฒนาหูฟัง 2 รุ่นล่าสุด โดย Jabra Elite 10 เป็นสุดยอดหูฟัง True Wireless พรีเมียมระดับที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตทุกรูปแบบ โดยเป็นหูฟังตัวแรกของตระกูล Elite ที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และเทคโนโลยี Dolby Head Tracking ซึ่งจะช่วยให้คุณได้ยินเสียงที่คมชัดสมจริงเสมือนอยู่ในสถานที่จริง มาพร้อมไดร์เวอร์ขนาด 10 มม. และระบบเสียง Spatial Sound เพื่อให้คุณดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มอิ่ม และยังมีเทคโนโลยี Jabra Advanced Active Noise Cancellation ที่ช่วยให้ประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนภายนอกที่ดีขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับมาตรฐานเดิมของ Jabra และไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน 6 ตัว ทำให้เสียงสนทนาคมชัด สดใส ไม่ว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวจะเป็นอย่างไร ขณะที่ตัวหูฟังออกแบบมาให้พอดีกับสรีระ ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ผสานเทคโนโลยี Jabra ComfortFit ที่ช่วยลดแรงดันภายในหู ทำให้สวมใส่ได้สบายตลอดทั้งวัน ขณะเดียวกันยังรองรับ Bluetooth Multipoint Connection ช่วยให้คุณเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์ได้พร้อมกัน และสามารถสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงสามารถปรับแต่ง EQ และรูปแบบการใช้งานได้อย่างอิสระผ่านแอปพลิเคชัน Jabra Sound+ พร้อมมาตรฐานป้องกันละอองน้ำและฝุ่น IP57 และยังมี Google Fast Pair และ Microsoft Swift Pair ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ผ่านบลูทูธได้อย่างรวดเร็ว แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 6 ชม. และเพิ่มเป็น 27 ชม.เมื่อใช้ร่วมกับตลับชาร์จ (เปิด ANC) โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สี Cream, Titanium Black และ Cocoa วางจำหน่ายในราคา 9,500 บาท
สำหรับ Jabra Elite 8 Active เป็นหูฟัง True Wireless ที่อึดที่สุด โดยออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายทุกประเภท
เพราะทนต่อทุกสภาพอากาศ สามารถใช้งานได้ในที่ๆ มีอุณหภูมิตั้งแต่ -20 ถึง 45 องศาเซลเซียส
ผ่านการทดสอบมาตรฐานทางการทหารจากสหรัฐอเมริกา (MIL-STD-810h) ตัวหูฟังได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 สามารถกันน้ำได้ลึกถึง
1.5 เมตร รองรับแรงกระแทกจากการตกจากที่สูงได้ถึง 1 เมตร และเป็นครั้งแรกที่ตัวเคสได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP54
อีกด้วย ขณะเดียวกันมาพร้อมไดร์เวอร์ขนาด 6 มิลลิเมตร และระบบเสียง Spatial
Sound Powered by Dolby ช่วยให้เสียงที่คุณได้ยินสมจริงและมีมิติมากยิ่งขึ้นเสมือนได้ยินด้วยหูตัวเอง
รวมถึงเทคโนโลยี Adaptive Hybrid Active Noise Cancellation ที่ให้ประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนภายนอกดีขึ้น
1.6 เท่า เมื่อเทียบกับมาตรฐานเดิมของ Jabra ดังนั้น ไม่ว่าจะเดินในที่ลมแรง หรือเป่าผมในห้องแต่งตัว
เสียงจากภายนอกก็จะไม่เข้าไปรบกวนคุณ นอกจากนี้ยังมาพร้อมไมโครโฟนที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้
6 ตัว ช่วยให้เสียงสนทนาของคุณคมชัด สดใส ในทุกๆ สภาพแวดล้อม
ทั้งยังสวมใส่ได้อย่างกระชับและสบาย
ด้วยเทคโนโลยี Jabra ShakeGrip™ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการยึดเกาะกับหูฟัง และรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทวอชผ่านเทคโนโลยี
Bluetooth 5.3 และสั่งงานด้วยเสียงผ่าน
Siri และ Google Assistant
ทำให้คุณไม่ต้องพกโทรศัพท์ระหว่างออกกำลังกายอีกต่อไป แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง เมื่อเปิด ANC
และเพิ่มเป็น 32 ชั่วโมง
เมื่อใช้ร่วมกับตลับชาร์จ มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Navy, Caramel และ Dark Grey วางจำหน่ายในราคา 7,690 บาท
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาหูฟังคุณภาพระดับพรีเมี่ยมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ครบทุกด้านอย่างสมบูรณ์แบบ
สามารถหาซื้อและสัมผัสประสบการณ์เสียงที่เหนือชั้นกว่าใครจากหูฟัง “จาบร้า” (Jabra) รุ่น Jabra
Elite 10 และ Jabra Elite 8 Active ได้แล้ววันนี้ที่ Studio7, Banana IT, Bb
Beyond D-Box, Munkonggadget, iStudio by Copperwired, dotlife, iStudio by SPVi,
Power Buy, Betrend, Siam Discovery, Central Online, Mercular, 425Degree,
Lazada, Shopee, Gadgetthai และตัวแทนจำหน่ายเป็นทางการทั่วประเทศ
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง https://www.facebook.com/jabrathailand
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น