IBM และ Cisco ประกาศแผนการครั้งใหญ่ มุ่งสร้าง 'อินเทอร์เน็ตควอนตัม' แห่งอนาคต

ใน

IBM และ Cisco ประกาศแผนการครั้งใหญ่ มุ่งสร้าง 'อินเทอร์เน็ตควอนตัม' แห่งอนาคต

20 พฤศจิกายน 2568, ยอร์กทาวน์ ไฮตส์, นิวยอร์ก และ ซานโฮเซ, แคลิฟอร์เนีย -- วันนี้ บริษัท IBM และ Cisco ได้ประกาศความตั้งใจที่จะร่วมมือกันวางรากฐานสำหรับการประมวลผลควอนตัมแบบกระจายเครือข่าย (Networked Distributed Quantum Computing) การร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อผสานความเชี่ยวชาญของทั้งสองผู้นำ โดย IBM ซึ่งเป็นผู้นำในการสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีประโยชน์ และ Cisco ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มด้านนวัตกรรมเครือข่ายควอนตัม

เป้าหมายหลัก: ขยายขีดจำกัดของควอนตัมคอมพิวเตอร์

ความร่วมมือนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจวิธีการขยายขนาดของคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่ทนทานต่อข้อผิดพลาด (fault-tolerant quantum computers) ให้เหนือกว่าแผนงานปัจจุบันของ IBM นาย Jay Gambetta ผู้อำนวยการ IBM Research กล่าวว่า การทำงานร่วมกับ Cisco เพื่อเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ควอนตัมหลายเครื่องเข้าด้วยกันในเครือข่ายแบบกระจาย จะช่วยให้พวกเขาสามารถขยายขอบเขตพลังการประมวลผลของควอนตัมต่อไปได้

นาย Vijoy Pandey จาก Outshift by Cisco ชี้ว่า การนำควอนตัมคอมพิวเตอร์ไปสู่ระดับที่มีประโยชน์ไม่ได้หมายถึงการสร้างเครื่องจักรแต่ละเครื่องให้ใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเชื่อมต่อพวกมันเข้าด้วยกันด้วย IBM กำลังสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีแผนงานที่ก้าวร้าวในการ "ขยายขนาดภายใน" (scale-up) ในขณะที่ Cisco กำลังนำเสนอเครือข่ายควอนตัมที่ช่วยให้สามารถ "ขยายขนาดภายนอก" (scale-out)

กำหนดการและขนาดของเครือข่าย
  • ระยะสั้น (ภายใน 5 ปี): ทั้งสองบริษัทตั้งเป้าที่จะสาธิตแนวคิดการพิสูจน์ (proof-of-concept) ครั้งแรกสำหรับเครือข่ายที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่ทนทานต่อข้อผิดพลาดขนาดใหญ่หลายเครื่องเข้าด้วยกัน เครือข่ายนี้จะช่วยให้สามารถดำเนินการคำนวณที่ใช้คิวบิต (qubits) ได้ตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน
  • ระยะกลาง (ภายในปี 2030): IBM และ Cisco ตั้งเป้าหมายการสาธิตแนวคิดการพิสูจน์เบื้องต้น โดยจะวางแผนที่จะพันกันของคิวบิตจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่แยกจากกันหลายเครื่อง ซึ่งตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมแช่แข็งที่แตกต่างกัน (distinct cryogenic environments)
  • เป้าหมายสูงสุด (ต้นทศวรรษ 2030): ตั้งเป้าที่จะสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบกระจายขนาดใหญ่ที่ทนทานต่อข้อผิดพลาด
  • อนาคตที่ไกลออกไป (ปลายทศวรรษ 2030): เครือข่ายควอนตัมนี้สามารถวางรากฐานไปสู่การเป็น "อินเทอร์เน็ตควอนตัม" (quantum computing internet) ที่ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัม เซ็นเซอร์ และการสื่อสารควอนตัม

การเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกันด้านเทคนิค

เครือข่ายควอนตัมนี้จะช่วยให้สามารถรันปัญหาที่อาจต้องใช้เกตควอนตัม (quantum gates) จำนวนหลายล้านล้านตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการใช้งานควอนตัมที่เปลี่ยนแปลง เช่น ปัญหาการเพิ่มประสิทธิภาพขนาดใหญ่ (massive optimization problems) หรือการออกแบบวัสดุและยาที่ซับซ้อน

เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงระบบเหล่านี้เข้าด้วยกัน ทั้งสองบริษัทต้องคิดค้นการเชื่อมต่อใหม่ ๆ รวมถึงทรานสดิวเซอร์ไมโครเวฟ-ออปติคอล (microwave-optical transducers) และซอฟต์แวร์ที่รองรับ

บทบาทเฉพาะของแต่ละบริษัท:
  • IBM: มีแผนที่จะสร้าง หน่วยเครือข่ายควอนตัม (QNU) เพื่อทำหน้าที่เป็นส่วนต่อประสานกับหน่วยประมวลผลควอนตัม (QPU) โดย QNU มีหน้าที่ในการแปลงข้อมูลควอนตัมที่อยู่กับที่ใน QPU ให้เป็นข้อมูลควอนตัมที่ "บินได้" (flying” quantum information) เพื่อเชื่อมโยงผ่านเครือข่าย
  • Cisco: นำเสนอวิสัยทัศน์สำหรับสถาปัตยกรรมศูนย์ข้อมูลควอนตัม (quantum data center) ซึ่งรวมถึงสแต็กฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ครบชุดที่มุ่งรักษาเสถียรภาพของสถานะควอนตัมที่เปราะบาง, กระจายทรัพยากรการพันกันของควอนตัม (entanglement resources), อำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายข้ามมิติ (teleportation) ระหว่างคอมพิวเตอร์ควอนตัม และซิงโครไนซ์การทำงานด้วยความแม่นยำระดับต่ำกว่านาโนวินาที เครือข่ายควอนตัมของ Cisco จะมุ่งเน้นการกระจายการพันกันไปยัง QNUs ตามความต้องการ

นอกจากนี้ เพื่อให้สามารถส่งคิวบิตได้ในระยะทางที่ไกลขึ้น เช่น ระหว่างอาคารหรือศูนย์ข้อมูล ทั้งสองบริษัทจะสำรวจเทคโนโลยีทรานสดิวเซอร์ออปติคอล-โฟตอนและไมโครเวฟ-ออปติคอล

ผลกระทบต่อโลกอนาคต

การสร้างเครือข่ายการประมวลผลควอนตัมแบบกระจายและปรับขนาดได้นี้จะสร้างเส้นทางไปสู่พื้นที่การคำนวณที่ใหญ่ขึ้นอย่างก้าวกระโดด เมื่อ "อินเทอร์เน็ตควอนตัม" กลายเป็นจริงในปลายทศวรรษ 2030 มันจะเชื่อมโยงเทคโนโลยีควอนตัมที่กระจายอยู่มากมาย เช่น คอมพิวเตอร์ควอนตัม เซ็นเซอร์ควอนตัม และการสื่อสารควอนตัม

วิสัยทัศน์ที่กล้าหาญนี้สามารถอำนวยความสะดวกให้เกิดความเป็นไปได้ใหม่ๆ เช่น การสื่อสารที่ปลอดภัยเป็นพิเศษ (ultra-secure communications) หรือ การตรวจสอบสภาพภูมิอากาศ สภาพอากาศ และกิจกรรมแผ่นดินไหวได้อย่างแม่นยำ

IBM และ Cisco ยังวางแผนที่จะร่วมให้ทุนสนับสนุนการวิจัยทางวิชาการและโครงการความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนระบบนิเวศควอนตัมในวงกว้างขึ้นด้วย

ภาพรวม: การร่วมมือระหว่าง IBM และ Cisco เปรียบเสมือนการวางท่อส่งน้ำขนาดใหญ่ (เครือข่ายควอนตัม) เพื่อเชื่อมต่อแหล่งน้ำที่มีศักยภาพสูง (คอมพิวเตอร์ควอนตัมแต่ละเครื่อง) เข้าด้วยกัน ทำให้สามารถรวมพลังงานและปริมาณน้ำ (พลังการประมวลผล) เพื่อแก้ไขปัญหาความแห้งแล้งที่ใหญ่และซับซ้อนเกินกว่าแหล่งน้ำเดี่ยวจะรับมือได้.

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น